วันแห่งอาหารรสเลิศที่เมืองโอไดอันสวยงาม

วันแห่งอาหารรสเลิศที่เมืองโอไดอันสวยงาม

วันนี้ของเราจะแตกต่างจากประสบการณ์ที่เราได้สัมผัสมาเมื่อเร็วๆนี้สักเล็กน้อย เรากำลังจะมีวันแห่งอาหารรสเลิศในเมืองที่สวยงามอย่าง โอไดโจ ฉันเคยคิดว่าโอไดโจล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำและภูเขาและมีเพียงกิจกรรมให้ทำในฤดูร้อนเท่านั้น แต่ก็มีคนบอกฉันว่ามีกิจกรรมแสนอร่อยมากมายในฤดูหนาวเช่นกัน! เราจึงเตรียมท้องสำหรับวันนี้ด้วยการไม่กินอาหารเช้ามากเกินไปด้วย

เขียนโดยไอซิส อาเคมิ มุโต

ฉันมีเรื่องจะสารภาพ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ฉันไม่ค่อยชอบชนบทเลย ซึ่งมันบ้ามาก ใช่ไหมล่ะ?! โดยเฉพาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น พื้นที่ 70% ของญี่ปุ่นเป็นภูเขา ดังนั้น เมื่อสามีและฉันตัดสินใจที่จะออกเดินทางภารกิจของฉันคือการตกหลุมรักชนบท และฉันก็ทำได้! การได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติทำให้รู้สึกราวกับได้รับการบำบัด และถึงมันจะฟังดูโบราณไปหน่อยแต่มันได้เปลี่ยนฉันจากภายในสู่ภายนอก

ขณะอยู่บนรถ ระหว่างทางไปยังจุดหมายแรก ฉันดูเหมือนเด็กมีความสุขที่มองออกไปนอกกระจกรถ ทึ่งกับวิวที่เห็นและคำเดียวที่ออกจากปากฉันคือ "ว้าว!"
ความงามของธรรมชาติของโอไดนั้นน่าทึ่งมาก มีหิมะตกเมื่อ 2-3 วันก่อนวันเดินทาง ดังนั้นหิมะที่เหลืออยู่จึงทำให้ธรรมชาติมีสัมผัสแสนพิเศษและทำให้ที่นี่สวยงามยิ่งขึ้น

แค่ธรรมชาติก็ทำให้การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าแล้ว ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมแม่น้ำมิยะจึงถูกมองว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นมาเป็นเวลาหลายปี! สีมรกตนั้นช่างงดงามยิ่งนัก!


เราไปถึงที่หมายแรก เป็นที่เปลี่ยวๆ เกือบสุดถนน ชื่อว่ายามาการะ ยามาการะเป็นที่พักสไตล์แคมป์ริมฝั่งแม่น้ำมิยะ เป็นที่พักแรมที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ที่นี่ เราจะมีตัวเลือกว่าจะเช่าห้องหรือตั้งแคมป์ข้างนอกบนดาดฟ้าขนาดใหญ่ของพวกเขา แต่เราเลือกไปดูสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของพวกเขา นั่นคือ พื้นที่ปีนผาแบบที่ไม่ใช้เชือกหรือโบลเดอริงในร่ม ฉันมีอคตินิดหน่อยที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโบลเดอริง เพราะเมื่อก่อนฉันเคยฝึกปีนผามานิดหน่อยก่อนมาญี่ปุ่นและฉันก็ชอบมันมาก (และฉันก็ยังทำอยู่ด้วย!)

พื้นที่ใหม่นี้ยอดเยี่ยมมาก มันสามารถใช้งานได้แม้ตอนฝนตกหรือในฤดูหนาวที่อากาศภายนอกเย็นจัด กลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวสามารถเข้าพักได้ สนุกสนานไปกับการปีนกำแพงทำตัวให้อบอุ่นใกล้กองไฟแล้วนอนหลับอย่างเต็มอิ่มในเต็นท์ขนาดใหญ่ โดยสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ในที่เดียว


เราไปที่บริเวณหลักของแคมป์พักแรมยามาการะเพื่อเตรียมอาหารมื้อแรกที่เมืองโอไดนั่นคืออาหารรมควัน ที่ยามาการะ พวกเขามีเครื่องรมควันด้วยไม้ด้วย ฉันคิดว่าในแบบตะวันตกผู้คนน่าจะนิยมรมควันเนื้อสัตว์ แต่วันนี้ เราขอเลือกอาหารเบาๆ เช่น เบคอน ไข่ และมันฝรั่งทอดสำหรับอาหารเช้าของเรา

ขณะที่เรากำลังรอให้อาหารถูกรมควันเราก็คั่วกาแฟของเราเอง และในเวลาไม่ถึงชั่วโมง กาแฟของเราก็พร้อมรับประทาน ตอนที่ฉันยังเด็ก แม่ของฉันปลูกต้นกาแฟไว้และฉันจำได้ว่ามันต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่กาแฟจะพร้อมที่จะบริโภคได้ มันทำให้ฉันประหลาดใจว่าสิ่งต่างๆ นั้นง่ายดายและใช้งานได้จริงเพียงใดในทุกวันนี้

และแล้วก็ได้เวลาทานอาหารรมควันของพวกเรา เรามีช่วงเวลายามเช้าที่ดีเยี่ยมที่ยามาการะ ได้กิน ดื่ม และพูดคุยกับพนักงานที่เล่าเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับเมืองโอไดให้เราฟัง อาหารและเครื่องดื่มที่เราทำด้วยมือของเราเองในธรรมชาตินั้นยอดเยี่ยมมาก นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมที่คุณสามารถทำกิจกรรมง่ายๆและใช้เวลาว่างอย่างผ่อนคลายได้ เราบอกลาที่นี่เพราะมีที่ที่จะต้องไป แต่เราก็วางแผนที่จะกลับมาอีกครั้งเมื่ออากาศอุ่นขึ้นเพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งอันน่าตื่นเต้นต่างๆ


ที่พักแรมสไตล์แคมป์ ยามาการะ
คาวาเซมิสไตล์แคมป์ โบลเดอริงโซโค (โกดังโบลเดอริง)

https://www.rocaroca.jp/yamagara

Tel : 070-1849-9842(8:00-17:00)

เรามุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่ 2 ยามาซาโตะ มินปากุ มิคุริ
ฉันตกหลุมรักสถานที่แห่งนี้ทันที ขอฉันบอกเหตุผลสักหน่อย สถานที่แห่งนี้นั้นเงียบสงบและมาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามของภูเขา มีพื้นที่กว้างใหญ่และหากคุณเดินลงเขาไปสักเล็กน้อย คุณจะพบกับแม่น้ำที่มีน้ำใสสะอาดบริสุทธิ์
ฉันแน่ใจว่าคุณจะต้องชอบที่นี่เช่นกัน แล้วคู่รักที่ดูแลยามาซาโตะ มินปาคุ มิคุริล่ะ? พวกเขาช่างเป็นคู่รักที่น่ารักจริงๆ

มินปากุ แปลว่า อยู่ในบ้านของใครบางคน
ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้เวลาสองสามวันที่นี่ได้ในบ้านที่ตกแต่งอย่างครบครันของพวกเขา หรือแม้แต่ตั้งแคมป์ในพื้นที่ตั้งแคมป์ขนาดใหญ่ของพวกเขา แต่วันนี้เราไม่ได้มาเพื่อค้างคืน เรามาทำอาหารกลางวันของเราเอง นั่นคือ โซบะ! โซบะเป็นบะหมี่ญี่ปุ่นที่ทำจากแป้งบัควีทกับน้ำ 
เมื่ออากาศอุ่นขึ้น ผู้คนมักจะได้สัมผัสประสบการณ์ทำโซบะกันกลางแจ้ง แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยมากนัก เราจึงต้องทำโซบะในอาคารกัน

ดังที่คุณเห็นในภาพ เราปล่อยให้ยูจิลูกชายของเราทำโซบะ กระบวนการทั้งหมดนั้นเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วมีหลายขั้นตอนที่ไม่สามารถข้ามไปได้ แต่ด้วยคำแนะนำของคุณนากาเอะเจ้าของร้านมินปาคุ มิคุริ ทำให้ยูจิก็สามารถทำได้ เขาผสมแป้งบัควีทกับน้ำเพื่อทำแป้งโด ในตอนแรกฉันสงสัยว่าปริมาณแป้งบัควีทจะเพียงพอต่อการทำโซบะสำหรับพวกเรา 3 คนหรือไม่ แต่คุณนากาเอะก็ยืนยันกับเราว่าพอแน่นอน

ยูจิใช้ไม้นวดแป้งในการยืดแป้ง และในขณะที่เขากำลังยืดแป้งนั้น ฉันก็ได้รู้ว่าแป้งเพียงพอสำหรับเรา 3 คนจริงๆ มันสนุกมากที่ได้ดูและเรียนรู้กระบวนการทั้งหมดนี้

ขั้นตอนต่อไปคือการตัดแป้ง ยูจิใช้มีดขนาดใหญ่พิเศษเพื่อตัดมันออกจากกัน
การที่ต้องตัดแป้งเป็นเส้นเท่าๆ กันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณนากาเอะสอนยูจิถึงวิธีการใช้มีดขนาดใหญ่เพื่อตัดให้ออกมาสวยงาม และยูจิก็ทำได้ดีมาก
ลูกชายของเราโชว์เส้นโซบะที่ทำเองอย่างภาคภูมิใจ และคุณนากาเอะก็โชว์มีดยักษ์เป็นฉากหลังให้

ขั้นตอนสุดท้ายคือการปรุงโซบะ เมื่อทำเส้นเสร็จแล้ว มิฮารุซัง (ภรรยาคุณนาคาเอะ) ก็เตรียมโซบะให้อย่างสวยงาม เธอทำโซบะให้เรา 3 แบบ มีแบบเย็นเป็น "คาเคโซบะ" และ "ซารุโซบะ" กับ "คาเคโซบะ" แบบร้อน

สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้