ศักการะศาลเจ้าอิเสะและเดินชม Meoto Iwa หินเมโอโตะอิวะ : หินสามี-ภรรยา

ศักการะศาลเจ้าอิเสะและเดินชม Meoto Iwa หินเมโอโตะอิวะ : หินสามี-ภรรยา

หากใครที่หลงใหลวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของญี่ปุ่น อยากให้ลองมาสัมผัสป่าสนโบราณที่ให้บรรยากาศลี้ลับของศาลเจ้าอิเสะที่ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ สถานที่แห่งนี้ยังคงสืบทอดพิธีกรรมและประเพณีอันดีงาม เป็นแหล่งรวมจิตใจของชาวญี่ปุ่น เมื่อมาแล้วก็เชื่อว่าจะได้แต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลกลับไปสู่ตัวเองและครอบครัว และหินเมโอโตะอิวะ ที่สวยงามโดดเด่นกลางทะเล เมื่อมาแล้วก็จะได้รับแต่ความสุขกลับไป
ถ้าให้พูดถึงความเชื่ออันยาวนาน สำหรับคนญี่ปุ่น เมืองศักดิ์สิทธิ์ก็คงหนีไม้พ้นศาลเจ้าอิเสะ เมืองเล็กๆ ในจังหวัดมิเอะ แน่นอน 
จุดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์เก่าแก่ของญี่ปุ่น เมื่อคุณก้าวเข้าไปในสวนป่าของศาลเจ้าอิเสะคุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แห่งนี้สืบทอดพิธีกรรมและประเพณีที่สวยงามมาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นที่ตั้งรวมจิตใจของชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีการกล่าวด้วยว่าผู้ที่มาที่ศาลเจ้าอิเสะจะโชคดีรวมไปถึงครอบครัวของพวกเขาด้วย

Profile:GOY
สาวผู้รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับงานเขียนและท่องเที่ยว ชอบธรรมชาติรักประเทศญี่ปุ่นและชอบทานอิเสะเอบิมาก การได้มาสำรวจและเดินทางผจญภัยในจ.มิเอะจึงเป็นความสุขอย่างที่สุด และด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ที่เที่ยวเยอะ ผู้คนใจดีจึงทำให้ตกหลุมรักเมืองนี้อย่างง่ายดายจนต้องมาแล้วมาอีก

เราเดินข้ามแม่น้ำอิสึสึที่ไหลจากไนกุผ่านมาทางด้านหลังของโอะฮะไรมะจิ แม่น้ำที่เราสามารถชมความงามที่แตกต่างของแม่น้ำสายนี้ได้แบบสี่ฤดู  แต่เราคิดว่า ทั้งฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิต่างก็สวยงาม 

สะพานอุจิว่ากันว่าเป็นสะพานที่แยกระหว่างโลกมนุษย์และโลกของเทพเจ้าเมื่อข้ามสะพานอุจิไปก็จะเป็นโลกแห่งเทพเจ้าเราจะถูกห้อมล้อมไว้ด้วยบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์จะได้ยินเสียงของกรวดหินสะท้อนดังกังวานอยู่ท่ามกลางทิวสนซุงิ ที่เรียกกันว่าไนกุ

ระหว่างทางเดินเราจะเห็นถังสาเกที่เป็นผลิตภัณฑ์ของเมืองอิเสะโดยเฉพาะ สาเกของที่นี่เมื่อบ่มจนถึงกำหนดจะถูกนำไปถวายเทพเจ้าแห่งอิเสะจิงงู


พอเราเดินเข้ามาถึงด้านในนอกจากชำระล้างมือที่จุดบริการแล้วคนส่วนใหญ่ก็ยังไปที่แม่น้ำเพื่อชำระล้างมืออีกด้วยโดยเชื่อว่าเพื่อให้สิ่งสกปรกทั้งหลายได้ไหลไปตามแม่น้ำ


ระหว่างการเดินทางเข้าไปยังศาลเจ้าแม้ว่าระยะทางเดินจะยาวไกลหลายร้อยเมตรแต่ทุกคนก็ตั้งใจเพื่อจะได้เข้าไปให้ถึงด้านใน เพราะเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เคยใช้ประกอบพิธีกรรมบวงสรวงเหล่าเทพและเทพีสำคัญสำหรับองค์พระจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ยามาโตะมาตั้งแต่สมัยอดีต


ความร่มรื่นและต้นไม้ใหญ่ตลอดสองแนวข้างทางเดินมีต้นสนฮิโนกิและซีดาร์ขนาดมหึมา บางต้นมีอายุหลายร้อยปีทำให้บรรยากาศเงียบสงบนั้นดูน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น ระหว่างเดินเราอาจจะเห็นกลุ่มเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาเรื่อยๆ



ตามทางเดินเราจะเห็นบันไดหินหลายแห่งเพราะด้านในพื้นที่นี้ มีอาคารหลายหลังที่เคยมีความสำคัญในประวัติศาสตร์


Kotaijingu(Naiku) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นนี่คือศาลเจ้าชินโตที่อุทิศให้กับAmaterasu-Omikami ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตระกูลอิมพีเรียลเธอได้รับการประดิษฐานในNaiku ประมาณ 2,000ปีที่แล้วเป็นที่เคารพนับถือในฐานะผู้พิทักษ์แห่งประเทศญี่ปุ่น


พื้นที่ด้านในมีศาลเจ้ามากมายและบางแห่งก็จะมีคนเข้าไปทำพิธีกรรมให้เห็นอยู่เรื่อยๆวิธีการทำความเคารพศาลของที่นี่คือ ยืนตรงก่อน จากนั้นโค้งหัวลง 2 ครั้ง ตบมือสองครั้ง อธิษฐานขอพรแล้ว โค้งหัวอีก 1 ครั้งเป็นอันจบ


เดินต่อมาอีกใกล้กันจะเจอบ่อน้ำใส และมีปลาคราฟว่ายไปมา ช่วงที่เราไปคือใบไม้เปลี่ยนสีความสวยสดของใบไม้สีแดงที่กำลังเริ่มเปลี่ยนสีตัดกับสีเข้มเขียวอมฟ้าของน้ำด้านล่างทำให้เราต้องหยุดยืนมองนิ่งๆ อยู่สักพักหนึ่งเลย


เดินต่อมาทางด้านในเราถ่ายภาพใบนี้ผ่านกระจกบานใหญ่จากห้องรับรอง ที่ๆเราเห็นคือ สวนเซนที่บางคนเรียก ‘สวนแห้ง’ หรือ ‘สวนหิน  สวนเซนมีแนวคิดในการยึดความสงบสันโดษที่แฝงไว้ด้วยปรัชญาเชิงนามธรรม จึงเน้นความเรียบง่าย สงบซึ่งหินหรือทรายจะถูกกวาดเป็นสัญลักษณ์ของทะเลสาบมหาสมุทร หรือแม่น้ำโดยการกวาดให้เป็นระลอกคลื่นให้มองเห็นเป็นภาพลวงตาอย่างที่เราเห็นเป็นเส้นกระแสน้ำที่ไหลไปตามภาพนี้


คนญี่ปุ่นเชื่อว่าที่ป่าโบราณแห่งนี้มีเทพเจ้าอามาเทระสุโอมิคามิสถิตย์ประจำไนกุจึงมีประเพณีเซนกุหรือประเพณีการรื้อถอนศาลเจ้าเก่าเพื่อสร้างใหม่และทำพิธีอัญเชิญเทพเจ้าย้ายสู่ศาลเจ้าหลังใหม่ซึ่งพิธีนี้จัดขึ้นทุกๆ 20 ปี ถือเป็นพิธีที่สืบเนื่องยาวนานกว่า 1300 ปี จนปัจจุบันนับได้ 61 ครั้งแล้วนะ


สะพานอุจินี้สร้างขึ้นใหม่ทุก ๆยี่สิบปีโดยเป็นส่วนหนึ่งของ Shikinen Sengu (การถ่ายโอนสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ไปยังพระราชวังอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ทุกๆยี่สิบปี)


Meoto Iwa หินเมโอโตะอิวะ : หินสามี-ภรรยา


จากนั้นเราไปเดินเล่นกันต่อที่Meoto Iwa ซึ่งเป็นหินลักษระคู่กันก้อนใหญ่และเล็กและตรงกลางมีเชือกคล้องใส่ไว้ด้วยกัน ตั้งอยู่ริมชายทะเลที่ตั้งอยู่ในศาลเจ้าฟุตามิโอกิทามะว่ากันว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ หินโออิวะ (หินผู้ชาย) สูง 9เมตร ส่วนหินเมอิวะ (หินผู้หญิง)ที่ตั้งอยู่ข้างๆสูง 4 เมตร โดยหินทั้ง 2 ก้อนเชื่อมต่อกันด้วยเชือกชิเมนาวะ1 เส้น ก่อนผ่านเข้าไปยังเขตศาลเจ้า จะเห็นเสาโทริอิควรแสดงความเคารพโดยการโค้งหัวก่อน


ก่อนที่จะไปศาลเจ้า Ise Jingu ควรแวะมาที่นี่ก่อน นี่เป็นวิธีการสักการะบูชาอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่สมัยโบราณก่อนจะเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและชำระจิตใจและร่างกายให้บริสุทธิ์

Meoto Iwa หรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า “Wedding Rocks” ชื่อเรียกว่าหินแต่งงานนั้นมาจากการที่เป็นหินธรรมชาติที่มีลักษณะเหมือนๆกับด้ายมงคลบนศีรษะคู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานและอยู่เคียงคู่กันอย่างน่าประหลาด ซึ่งเชือกมงคลนี้จะมีพิธีเปลี่ยน เชือก 3 ครั้งต่อปีด้วยกันได้แก่เดือน พฤษภาคม , กันยายน และกลางเดือนธันวาคมส่วนเชือกเก่านั้นจะนำมาทำเป็นเครื่องรางหรือวัตถุงมงคลให้สมหวังในความรักด้านการแต่งงาน 


ส่วนกบที่อยู่รอบๆบริเวณศาลเจ้านั้น ในคำอ่านญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า Ka-e-ru ไปพ้องเสียงกับคำว่ากลับมานั่นหมายถึงว่าผู้ที่พลัดพลากจากไปก็จะได้กลับมาเจอกัน หรือหากเป็นเนื้อคู่กันแล้วจะได้กลับมาหากัน 


รายละเอียดศาลเจ้าอิเสะ

เวบไซต์ https://www.isejingu.or.jp/en/about/index.html

เดินทาง

จากสถานีนาโกย่าด้วยรถไฟสาย Kintetsuมาลงที่ สถานีIsuzugawa เดินต่ออีก 30นาที หรือโดยรถบัสหรือแท็กซี่ ใช้เวลา 6 นาที

ตารางรถบัส https://www.isejingu.or.jp/en/access/index.html#train

หรือเดินทางด้วยรถไฟสายอื่นๆตรวจสอบได้ที่นี่ https://www.isejingu.or.jp/en/access/index.html




รายละเอียด Meoto Iwa

ที่อยู่ บริเวณศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ FutamiOkitama Shrine

       575 Futami-cho, Ise-shi, MiePrefecture 519-0602


แผนที่ https://goo.gl/maps/sv5kkdR5cVwTJfH56

เวลาทำการศาลเจ้า 7.30น. -16.30น.

โทรศัพท์0596-43-2020

การเดินทาง : จากสถานี JR Futaminoura Station เดินใช้เวลา 15 นาที


สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำในบทความนี้